การที่มนุษย์เรียกตัวเองว่าสิ่งมีชีวิตสปีชีส์หลัก ( Dominant Species) บนดาวเคราะห์ที่มีอายุกว่า 4500 ล้านปีนั้น อาจเป็นจริงเพียงชั่วยุคดึกดำบรรพ์ยุคนี้เท่านั้น เพราะโลกกำลังถูกทำลายโดยมนุษย์ เเละสิ่งเเวดล้อมก็กำลังเสื่อทรามลง โดยมนุษย์ เช่นกัน การที่เราพยายามเตือนสติผู้คนรอบข้างให้หันมาใส่ใจ ในการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์กับสิ่งแวดล้อม หรือการที่เราคำนึงถึง ลูกหลานในอนาคตจนต้อง บัญญัติศัพท์คำว่า " การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development ) " มาใช้นั้นอาจเพียงพอ ในกรณีที่สภาพทางเศรษกิจเเละสังคมของ ประชากรในประเทศนั้นๆอยู่ในขั้นปานกลางถึงดีมาก เเต่สำหรับประเทศด้อยพัฒนา หรือประเทศที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย อาจเป็นสิ่งที่เลือนลางหรือเพ้อฝัน เพราะการเอาชีวิตตนเองให้รอดในแต่ละวัน ยังทำได้ลำบาก ดังนั้นปัจจัยสี่ที่ต้องแสวงหามาเพื่อพยุงชีวิต ตนเองให้อยู่รอดจึงเป็นความหวังสูงสุดของ ประชากรในนประเทศ เหล่านี้ การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมหรือการคำนึงถึงอนาคตตชนจึงถูกหลง ลืมและละเลยการปฏิบัติ เพราะประชากรในประเทศ ต่างๆเหล่านี้จัดลำดับความสำคัญ ของปัญหาสิ่งเเวดล้อมไว้ในลำดับท้ายสุด ทำให้ขาด ความสนใจในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษสิ่งแวดล้อมก็จะย้อนกลับมาทำลายมนุษย์ ให้บอบช้ำลงไปกว่าเดิม และเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไว้รองรับการสูญพันธุ์ ของสิ่งมีชีวิต ในอนาคต
ปัจจัยสี่ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์มากที่สุดคือ อาหาร ซึ่งจัดเป็นสิ่งจำเป็นต่อการยังชีพ ( Mean of Subsistances ) ซึ่งอาจเพิ่ม ในรูปแบบอนุกรมเลขคณิต ( Arithmatic Progression ) ไล่หลังการเพิ่มปริมาณประชากรมนุษย์ก็จริง แต่ด้วยความเจริญก้าวหน้าทาง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้มนุษย์สามารถพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ทางการเกษตร ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับปัจัยทางกายภาพและชีวภาพ ที่คอยเกื้อหนุนระบบนิเวศจนสามารถเพิ่มผลผลิต ให้สามารถสนอง ตอบความต้องการของตลาดการค้าในแต่ละภูมิภาคของโลกได้ ยิ่งการเเข่งขันทางการค้าเสรีมากขึ้นเท่าใด นักวิทยาศาสตร์ ก็ยิ่งจะต้องใช้ความฉลาดของตนช่วยเหลือเกษตรกรมากขึ้นเท่านั้น
ประเทศที่มีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีชีวภาพสูง มักใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับยีน เพื่อช่วยในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคมของ ประเทศนั้นๆให้เจริญขึ้นได้ ประเทศไทยถือได้ว่ามีขีดความสามารถ ทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับยีน ที่สามารถพัฒนา ไปจนสามารถเลือกใช้สิ่งที่ มีอยู่เเล้วในต่างประเทศมาใช้ประโยชน์เเละ สามารถขยายขีดความสามารถในหลายๆด้าน เพื่อช่วยพัฒนา งานทางการเกษตร แพทย์ และอุตสาหกรรม เทคโนโลยีเกี่ยวกับยีนทำให้มนุษย์สามารถปรับปรุงพันธุ์ สร้างพันธุ์สัตว์ พืช ตลอดจน จุลินทรีย์ใหม่ ๆ เพื่อผลิตชีวโมเลกุล ยา ฮอร์โมน โดยกระบวนการที่มีความแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ มาหา เอกลักษณ์ ของยีน ตัดสินสายพันธุ์เเละเชื้อสาย ของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย เทคโนโลยีเกี่ยวกับยีนมีความสำคัญต่อการปรับปรุงพันธุ์พืช สำหรับประเทศเกษตรกรรมอย่างประเทศไทยเป็นอย่างมาก พืชที่ผลิตได้อาจมีผลผลิตมากขึ้น ทนศัตรูพืชได้ดีขึ้น แข็งเเรงขึ้น มีดอกที่ตลาดต้องการ หรือสามารถเติบโตในสภาวะที่มีความเครียดได้ ( ถิรพัฒน์ วิลัยทอง และคณะ , 2540 : 76-77 ) จากการ ที่เทคโนโลยี ทางชีวภาพมีความเจริญเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น สิ่งมี ชีวิตตัดต่อสารพันธุกรรม พืชดัดแปลงพันธุ์ และอาหารดัดแปลงยีน ต่างก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ และส่งผลต่อมนุษย์ในหลายแง่มุม การพิจารณาใช้ ประโยชน์ จึงต้องรัดกุมและรู้เท่าทันเหตุการณ์ซึ่งจะส่งกระทบต่อตัวเองในอนาคต ปัจจุบันประเทศไทยกำลัง ประสบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตตัดต่อสารพันธุกรรม ผู้บริโภคลังเลใจที่จะบริโภค การติดฉลาก GMOs ยังไม่มีมาตร การที่ชัดเจนจากผู้รับผิดชอบ หรือแม้แต่การตีกลับของสินค้า GMOs ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ ทั้งนี้ยังไม่รวมถึง ผลกระทบทาง นิเวศวิทยาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การเสริมสร้างความรู้ทางวิชาการ และการเสริมสร้างแนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับ GMOs จึงเป็น เรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนต้องทราบและหาเหตุผล เพื่ออธิบายให้ผู้บริโภคและประชาชนทุกคนได้รับรู้เพื่อเสริมสร้าง ประโยชน์ให้เกิด ขึ้นกับประเทศชาติสืบต่อไป